วีซ่าสหรัฐอเมริกา (USA) B1/B2

หากคุณวางแผนที่จะเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) คุณจำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา เนื่องจากผู้ถือสัญชาติไทยต้องมีวีซ่าในการเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา ประเภทของวีซ่าที่คุณต้องขอจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเดินทาง เช่น วีซ่าท่องเที่ยว (B1/B2) ที่อนุญาตให้คุณพำนักในสหรัฐฯ ได้ตามระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอนุมัติ (โดยทั่วไปไม่เกิน 6 เดือน) เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้ความช่วยเหลือคุณในทุกขั้นตอนของการขอวีซ่าสหรัฐอเมริกาอย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นมืออาชีพ

The logo of the LINE application.

Scan the QR code to talk to us for free on LINE.

The logo of the Messenger application.

Scan the QR code to talk to us for free on Messenger.

The QR code to contact PT Services on Messenger.

เอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา (USA) ประเภทท่องเที่ยว/เยี่ยมเยียน (B1/B2)

เอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา (USA) ประเภทท่องเที่ยว/เยี่ยมเยียน (B1/B2) มีดังนี้:

✅ เอกสารพื้นฐานที่ต้องใช้

  • หนังสือเดินทาง (Passport) ต้องมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือนนับจากวันที่เดินทางเข้า USA
    หนังสือเดินทางเล่มเก่า (ถ้ามี)
  • แบบฟอร์ม DS-160 กรอกออนไลน์และพิมพ์หน้าคอนเฟิร์มที่มีบาร์โค้ด
  • รูปถ่ายขนาด 2x2 นิ้ว (5x5 ซม.) พื้นหลังสีขาว ไม่สวมแว่น ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
  • ใบยืนยันการนัดสัมภาษณ์ (Appointment Confirmation) พิมพ์จากระบบหลังจากทำการนัดวันสัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์
  • หลักฐานการชำระค่าวีซ่า (Visa Fee Receipt) ค่าธรรมเนียมประมาณ 185 USD (อาจเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยน)

✅ เอกสารประกอบเพิ่มเติม (เพื่อแสดงความผูกพันกับประเทศไทย)

  • หนังสือรับรองการทำงาน ระบุชื่อตำแหน่ง เงินเดือน วันเริ่มงาน และอนุญาตให้ลางานเพื่อเดินทาง
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน หรือหลักฐานรายได้อื่นๆ
  • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Bank Statement) อย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อแสดงฐานะการเงินที่เพียงพอ
  • ทะเบียนบ้าน / บัตรประชาชน ฉบับสำเนา
  • หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน / ที่พัก (ไม่จำเป็นต้องซื้อล่วงหน้า แต่สามารถใช้เพื่อแสดงแผนการเดินทาง)
  • จดหมายเชิญ (ถ้ามี) หากไปเยี่ยมญาติหรือเพื่อนในสหรัฐฯ ให้แนบจดหมายเชิญ พร้อมสำเนาบัตรประชาชนหรือวีซ่าของผู้เชิญ
  • หลักฐานอื่นๆเช่น สมุดทะเบียนสมรส ใบเกิดของบุตร หลักฐานการเป็นเจ้าของธุรกิจ ฯลฯ

ค่าธรรมเนียมวีซ่า

ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าประเภท B1/B2 ของสหรัฐอเมริกาจะขึ้นอยู่กับประเภทของวีซ่าและระยะเวลาในการอนุญาตให้พำนัก โดยทั่วไป วีซ่าประเภทนี้อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศเพื่อท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ หรือทำธุรกิจชั่วคราว และสามารถพำนักในสหรัฐฯ ได้สูงสุดไม่เกิน 6 เดือนต่อการเดินทาง (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง)สำหรับผู้ถือสัญชาติไทย ค่าธรรมเนียมการสมัครวีซ่า B1/B2 อยู่ที่ 185 ดอลลาร์สหรัฐ
(คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6,660 บาท ทั้งนี้อาจเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยน)คุณสามารถตรวจสอบอัตราค่าธรรมเนียมล่าสุด ได้จากเว็บไซต์ทางการของสถานทูตสหรัฐฯ หรือเว็บไซต์ USTravelDocs ประเทศไทย

The logo of the LINE application.

Scan the QR code to talk to us
for free on LINE.

The logo of the Messenger application.

Scan the QR code to talk to us
for free on Messenger.

The QR code to contact PT Services on Messenger.

ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของเรา

ที่ PT Services เราเข้าใจดีว่ากระบวนการยื่นขอวีซ่าสหรัฐอเมริกาอาจดูยุ่งยากและมีความซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเอกสาร การกรอกแบบฟอร์ม DS-160 การนัดสัมภาษณ์ หรือความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับอนุมัติ ซึ่งอาจทำให้คุณเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรามี บริการให้คำปรึกษา จากผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่อช่วยวิเคราะห์จุดประสงค์ในการเดินทางของคุณ พร้อมให้คำแนะนำที่ตรงจุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการขอวีซ่าให้สำเร็จ หากคุณต้องการ เจ้าหน้าที่ของเราสามารถช่วยเตรียมเอกสารที่จำเป็นในการขอวีซ่า กรอกแบบฟอร์ม จองวันสัมภาษณ์ ไปจนถึงการเทรนสัมภาษณ์ เพื่อให้คุณขอวีซ่าสหรัฐอเมริกาได้อย่างสะดวก มั่นใจ และไร้ความกังวล

ให้เจ้าหน้าที่ของเราช่วยคุณขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา (USA)

บริการของเราประกอบด้วย:
✅ ให้คำปรึกษาเบื้องต้น
✅ ตรวจสอบและช่วยเตรียมเอกสารที่จำเป็น
✅ กรอกแบบฟอร์ม DS-160 อย่างถูกต้องและครบถ้วน
✅ ดำเนินการนัดหมายสัมภาษณ์กับสถานทูต
✅ ให้คำแนะนำและฝึกซ้อมก่อนการสัมภาษณ์

โดยเราคิดค่าบริการ การดำเนินการคงที่ 10,860 บาท
ค่าธรรมเนียมสถานทูต: 185 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,660 บาท) ชำระแยกต่างหาก

เงื่อนไขพิเศษ : หากคุณไม่ผ่านการสัมภาษณ์และไม่ได้รับวีซ่า คุณสามารถกลับมาใช้บริการกับเราได้อีก โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยไม่ต้องชำระค่าบริการเพิ่มเติมแต่อย่างใด คุณจะรับผิดชอบเฉพาะค่าธรรมเนียมสถานทูตในรอบถัดไปเท่านั้น